วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

สิวเกิดได้ไง ?




สาเหตุของสิว


เมื่อร่างกายเริ่มผลิตฮอร์โมนแอนโดรเจน มักเกิดขึ้นในช่วงก่อน/หลังมีประจำเดือน ซึ่งจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันใต้ผิวขยายใหญ่ขึ้น เมื่อต่อมไขมันถูกขยายใหญ่ขึ้น จะมีน้ำมันที่เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตามธรรมชาติของผิว ถูกผลิตออกมามากเกินไป และในขณะที่น้ำมันเดินทางจากต่อมไขมันสู่ปากรูขุมขน เกิดไปผสมเข้ากับแบคทีเรียและเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งอยู่ในรูขุมขน ทำให้เกิดการเข้มข้นเป็นพิเศษจึงเกิดการอุดตันรูขุมขน อันเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ตามปกติ เซลล์ที่ตายแล้วในรูขุมขนจะค่อย ๆ ถูกกำจัดออกสู่ปากรูขุมขนโดยน้ำมันหรือเหงื่อ แต่เมื่อฮอร์โมนแอนโดรเจนกระตุ้นให้ต่อมไขมันใหญ่ขึ้นและผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น เซลล์ผิวหนังในรูขุมขนก็จะผลิตและตายเร็วขึ้นด้วย เมื่อมีเซลล์ที่ตายอยู่มาก ก็จะเกิดการอุดตันในรูขุมขนมากขึ้นเป็นทวีคูณ เมื่อรูขุมขนเกิดอุดตัน บวกเข้ากับเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งปกติแล้วก็อาศัยอยู่ตามผิวหนังและรูขุมขน แต่เมื่อเกิดการอุดตัน เชื้อแบคทีเรียซึ่งไม่ชอบออกซิเจน ก็จะแบ่งตัวได้อย่างรวดเร็วผิดปกติ จนเกิดเป็นสาเหตุของการอักเสบในรูขุมขนขึ้น เมื่อเกิดการอักเสบขึ้นแล้ว เม็ดเลือดขาวในร่างกายก็จะฆ่าแบคทีเรีย ทำให้สิวเกิดเป็นตุ่มแดง บวม เจ็บ และเกิดเป็นหัวหนองในที่สุด

วิธีรักษา


สิวถ้ามัวแต่แก้ไขเฉพาะสิวที่เห็นภายนอกโดยไม่สนใจรักษาที่ต้นเหตุซึ่งอยู่ใต้ผิวหนัง การรักษาใดๆก็ไม่ได้ผล เช่น ใช้ผลิตภัณฑ์ทำให้หัวสิวแห้งเพียงอย่างเดียว ซึ่งนอกจากสิวจะไม่ยุบและไม่สามารถดูดซับความมันบนหัวสิวแล้วยังระคายผิว และอาจก่อให้เกิดแผลเป็นอีกด้วย ฉะนั้น วิธีรักษาสิวที่ดีที่สุดคือ การขัดผิวเพื่อลดการสะสมตัวของเซลล์ผิวที่ตายทั้งบนผิวและในรูขุมขน การฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว การดูดซับความมันและสร้างสมดุลให้กับฮอร์โมนของร่างกายเพื่อควบคุมการผลิตน้ำมัน


ล้างหน้า : ควรใช้เคลนเซอร์ที่ละลายน้ำและไม่ผสมสารที่ทำให้ระคายผิว เช่น สบู่ สครับ เพื่อเลี่ยงการกระตุ้นต่อมไขมัน ลดการอักเสบของผิว และความแห้งกร้าน ส่วนเคลนเซอร์ที่ผสมสารขัดลอกเซลล์ผิว สารยับยั้งเชื้อแบคทีเรียหรือดูดซับน้ำมันส่วนเกินจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ เนื่องจากก่อนที่สารเหล่านี้จะออกฤทธิ์คุณก็ล้างออกเสียแล้ว


ขจัดเซลล์ผิว : เพราะสิวเกิดขึ้นภายในรูขุมขน และเกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำมัน ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ที่ผสมกรดซาลิไซลิกซึ่งละลายในไขมัน จึงสามารถเข้าขัดลอกเซลล์ผิวเก่าในรูขุมขนได้อย่างอ่อนโยน แนะนำให้ใช้ประเภทเจลหรือโลชั่นเนื้อเบาๆ ซึ่งไม่ผสมสารสร้างความหนืดหรือสารให้ความชุ่มชื่นอันจะอุดตันรูขุมขน ส่วนสครับหรือกรด AHA มักไม่ค่อยได้ผล เนื่องจากตัวช่วยขัดลอกเซลล์ผิวเฉพาะภายนอก ไม่สามารถลงลึกถึงรูขุมขนได้


ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย : แอลกอฮอล์หรือซัลเฟอร์เป็นสารฆ่าเชื้อที่ดีแต่ทำให้ผิวแห้งและระคายจนทำให้เกิดสิวใหม่ คุณจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมน้ำมีทีทรีหรือเบนซอยล์เพอร๊อกไซด์ ที่มีความเข้มข้นประมาณ 2.5% 5% หรือ 10% ส่วนการกินยาแอนตี้บอดี้สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่งก่อสิวได้จริง แต่จะทำลายแบคทีเรียตัวที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายไปด้วย


เพิ่มการสร้างเซลล์ผิว : คุณหมออาจใช้สารจำพวกเตรตินอยน์ ดิเฟอรีนและกรดอะเซลาอิก ซึ่งช่วยให้เจริญเติบโตได้ดี จนสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างของรูขุมขน และช่วยให้การขับน้ำมันสะดวกราบรื่น


ที่พึ่งสุดท้าย : ถ้าหากสิวยังคงอยู่ทนแม้คุณจะทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ทุกรูปแบบแล้วก็ตาม คุณก็ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพราะยังมียารับประทานอีกตัวหนึ่งซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกแล้วว่าสามารถรักษาสิวได้ผลดีเยี่ยม นั่นก็คืออัคคูเทน ซึ่งเป็นวิตามินเอปริมาณสูง มักใช้ในกรณีที่เกิดสิวรุนแรงและยังช่วยทำให้ผิวเนียนกระชับสวยขึ้นด้วย แต่ยาตัวนี้ควรเป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆและต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากยานี้มีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง เช่น ก่อให้เกิดความผิดปกติในการตั้งครรภ์และปัญหาทางจิต

ไม่มีความคิดเห็น: