วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2551

5 วิธีดูแลเท้าในช่วงฤดูฝน


1. ไม่ควรเดินเท้าเปล่า เพราะอาจเกิดการบาดเจ็บหรือ เป็นแผลบริเวณเท้าเนื่องจากถูกแก้วบาด หรือตอไม้ทิ่มตำ และเมื่อมีบาดแผลดังกล่าวแล้วยังเดินย่ำน้ำต่อจะเกิดอันตรายจากการติดเชื้อสูงขึ้นไปอีก


2. ขณะเดินอยู่ในน้ำ เราควรยกเท้าเหนือน้ำเมื่อต้องการจะก้าวเท้าต่อไป ไม่ควรก้าวเท้าโดยให้เท้าอยู่ใต้น้ำ เพราะการกระทำเช่นนี้จะทำให้เดินช้าลง และใช้เวลาลุยน้ำนานขึ้น โดยได้ระยะทางน้อย


3. เมื่อพ้นเขตน้ำท่วมแล้ว ต้องรีบหาน้ำสะอาดล้างเท้าในทันที โดยใช้น้ำสะอาดให้มากพอ ถูสบู่บริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับน้ำ เน้นตรงซอกเท้า ซอกเล็บด้วย บริเวณซอกเล็บควรใช้ แปรงอ่อนๆ จุ่มสบู่เล็กน้อยและถูเบาๆ ทำให้เชื้อโรคหรือไข่พยาธิต่างๆ หลุดออกไปได้หมด หรือจะแช่เท้าในอ่างบรรจุน้ำสะอาดสัก 15-30 นาที แล้วเช็ดเท้าให้แห้ง อาจใช้แป้งฝุ่นโรยสัก เล็กน้อยเพื่อเป็นการหล่อลื่นผิวหนัง


4. ถ้ามีอาการคันบริเวณผิวหนังซึ่งจุ่มน้ำ แสดงว่าผิวหนังได้รับการระคายเคืองมากจากสิ่งปฏิกูลในน้ำ ควรทายาแก้คัน เช่น คาลาไมน์ หรือครีมแก้คัน
อื่นๆ เช่น ไทรแอมซิโนโลน


5. สิ่งของที่เปียกน้ำ ได้แก่ รองเท้า พรมรถยนต์ เบาะรถยนต์ ควรนำไปตากแดด ให้แห้งสนิท เพื่อขจัดความชื้น รวมถึงเป็นการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจติดค้าง อยู่ในสิ่งของดังกล่าวให้หมดไป

ตกขาวคืออะไร


ตกขาวหมายถึง สิ่งที่ถูกขับออกมาจากช่องคลอด และสิ่งนั้นไม่ใช่เลือด ดังนั้น ตกขาวจึงมีสีอะไรก็ได้แต่ส่วนใหญ่จะสีขาว ตกขาวนี่เองที่เป็นอาการที่ผู้ป่วยมาหาหมอถึงหนึ่งในสามของผู้ป่วย ที่มาตรวจภายใน ตกขาวเป็นคำเรียกที่รู้จักกันทั่วไป แต่บางคนก็เรียก ระดูขาว (ไม่ใช่ฤดูขาวระนะค่ะ) หนังสือบางเล่มก็เรียก มุตกิต ก็มี ตกขาวไม่ใช่โรคแต่เป็นอาการ ซึ่งอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น คัน มีกลิ่น หรือเจ็บปวด


ชนิดของตกขาว
ตกขาวกับผู้หญิงเป็นของคู่กัน เป็นผู้หญิงก็ต้องมีตกขาว การมีตกขาวไม่ได้หมายถึง การเป็นโรคหรือเป็นมะเร็ง หรือผิดปกติ นั่นก็หมายถึงว่า การมีตกขาวอาจเป็นปกติ หรือไม่ปกติก็ได้


ตกขาวปกติเป็นตกขาวที่พบได้ในภาวะปกติ ตกขาวแบบนี้มีสีขาว คล้ายแป้งเปียก มีปริมาณไม่มาก ไม่คัน กลิ่นออกเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่เหม็น อย่างไรก็ตามในบางช่วงอาจมีปริมาณมากขึ้นเล็กน้อย เช่น ช่วงก่อนมีรอบเดือน หลังมีรอบเดือน ช่วงไข่ตก หรือในภาวะตั้งครรภ์


ในตกขาวมีสารอะไรบ้าง อย่างที่บอกตกขาวหมายถึง สารที่ถูกขับออกจากช่องคลอด ซึ่งมีทั้งสิ่งที่ถูกขับออกจากต่อมต่างๆ ในระบบสืบพันธ์ ซึ่งได้แก่

1. น้ำที่หลั่งจากต่อมใต้ผิวหนัง บริเวณช่องคลอด จากต่อมสกีน (Skene's gland) ต่อมบาร์โธลิน เพื่อหล่อลื่นปากช่องคลอด

2. เซลล์เยื่อบุผนังช่องคลอดที่หลุดลอกออกมา

3. มูกจากต่อมที่ปากมดลูก

4. โปรตีน, เกลือแร่ ที่มาจากผนังช่องคลอด เยื่อบุโพรงมดลูก และหลอดมดลูก

5. กรดแลคติคซึ่งแบคทีเรียในช่องคลอดสร้างจากกลัยโคเจน ของเยื่อบุผนังช่องคลอด


ตกขาวที่ไม่ปกติก็คือ ตกขาวที่ตรงข้ามกับตกขาวปกติ กล่าวคือ มีปริมาณมาก บางครั้งไหลโจ๊กยังกะมีรอบเดือนยังไงยังงั้น มีกลิ่นเหม็น ลักษณะอาจเป็นหนอง มูกปนหนอง ปนเลือด มีฟอง และมักมีอาการอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น คัน แสบ ออกร้อนที่บริเวณปากช่องคลอด หรือมีปวดท้องน้อยร่วมด้วยก็ได้


ต้นเหตุที่ทำให้ตกขาวผิดปกติ ที่พบบ่อย 3 อันดับแรกคือ

- จากเชื้อแบคทีเรีย (bacterial vaginosis) พบได้ร้อยละ 30-35

- จากเชื้อรา, ยีสต์ (vulvovaginal candidiasis) พบได้ร้อยละ 20-25

- จากเชื้อพยาธิ trichomoniasis พบได้ร้อยละ 10

ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่พบเชื้อสองชนิดหรือมากว่าสองชนิด อยู่ร้อยละ 15-20 เรียกว่า ได้หนึ่งแถมหนึ่งว่างั้นเถอะ เชื้อ 3 ตัวนี้พบร้อยละ 90 ของผู้ป่วยตกขาวผิดปกติ


สาเหตุของการตกขาวผิดปกติ แบ่งตามตำแหน่งที่เกิดคือ
1. ช่องคลอดอักเสบ ที่พบบ่อยคือ - แบคทีเรีย (bacterial vaginosis)- เชื้อพยาธิ (trichomonas)- เชื้อรา (candida)- เชื้อไวรัส เช่น โรคเริม - เชื้อแบคทีเรียอื่นๆ
2. ปากมดลูกอักเสบ - การติดเชื้อหนองใน- การติดเชื้อคลามิเดีย- การติดเชื้อเริม
3.ปากมดลูกมีแผล, เป็นเนื้องอก

4.สิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด เช่น เศษกระดาษทิชชู, สำสี, ผ้าก็อซ, เมล็ดผลไม้, ถุงยางอนามัย เป็นต้น 5.เนื้องอกและมะเร็งมดลูก, ปากมดลูก ซึ่งตกขาวจะมีกลิ่นเหม็นมาก

6.สตรีวัยหมดระดู ขาดฮอร์โมน ก็ทำให้เกิดช่องคลอดแห้งอักเสบ มีตกขาวได้


ความสัมพันธ์ระหว่าง "วัย" กับ "ตกขาว"

วัยเด็ก มักเกิดจากความสกปรก สุขอนามัยไม่ดี ทำความสะอาดไม่เป็น หรืออาจมีสิ่งแปลกปลอม ที่เด็ก ยัดเข้าไป เช่น ยางลบ เม็ดผลไม้ กระดาษทิชชู วัยเจริญพันธุ์ มักเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ วัยหมดระดู เกิดจากการขาดฮอร์โมน

เวลาอกหักอย่าทำแบบนี้เลย


อยากร้องไห้ ร้องไปเลย


ร้องให้พอ แล้วปรับตัวปรับใจมาเริ่มต้นใหม่กันดีกว่า พยายามหางานทำ ทำงานที่ต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุด เอาเวลาเอาสมอง ไปคิดสิ่งที่เป็นประโยชน์ดีกว่านะคะ อย่าไปหมกหมุ่นกับสิ่งที่ทำให้เราเสียสุขภาพจิตเลยค่ะ

อย่าคิดทำร้ายตัวเอง


พ่อแม่รักเรา เลี้ยงเรามา แทบตายนะคะ ทำไมกับ ผู้ชายห่วยแตกคนเดียว ใครที่ไหน ก็ไม่รู้ เค้าทำให้เราเจ็บใจ แล้วยังไม่พอ เค้ามีค่าทำให้เรา ต้องอุทิศชีวิต ให้เลยหรือ กลับไปหา พ่อแม่นะคะ ท่านรักเรา มากที่สุด ไม่มีใคร รักเรา เท่านี้อีกแล้ว ที่ว่า ผมรักคุณ รักนักรักหนา อย่าไปเชื่อมากนักนะคะ แบ่งใจไว้บ้าง

อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัว ให้ดูไร้ค่า บางคนโมโห แล้วกินจนอ้วน บางคนก็โทรม บางคนก็ ประชดชีวิต ทำตัวเองให้มันเลวไปซะเลย มันไม่มีอะไรดีหรอกค่ะ เค้าจะยิ่ง สมน้ำหน้าเรา เราต้อง ทำตัวให้ดีขึ้น ให้เค้ารู้สึก เสียดายเราจะดีกว่า

อย่าอยู่คนเดียว

ควรหาเพื่อนคุย หรือหาอะไรทำ นะคะ จะได้ไม่คิดมาก

อย่าดูหนังโรแมนติก หรือฟังเพลงเศร้า

เพราะเราจะมีอารมณ์คล้อยตาม มันยิ่งจะเศร้าไปกันใหญ่


อย่าเอารูป หรือของเก่า ๆ มาดู




ห้ามนำของที่มีความหลัง มาดู เป็นอันขาด ดูไป ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกค่ะ อย่าพยายามผ่าน หรือไปใน สถานที่ ที่เคยไปด้วยกัน ที่ควรไปมีอีกเยอะ

อย่าคิดว่า ชีวิตนี้ขาดเค้าไม่ได้

ถ้าไม่มีเค้า แล้วเราจะตาย เพราะแต่ก่อน ที่ยังไม่เจอเค้า เราก็อยู่ได้ จริงไม๊คะ ดีแล้วที่ เค้าเลิกไปซะ เราจะได้มีโอกาส เจอคนดีกว่านี้อีก ต้องมีกำลังใจ อย่าท้อแท้นะคะ ชีวิต เราต้องก้าวไปข้างหน้า หาในสิ่งที่ดีกว่า


อย่าโทรศัพท์ไปง้องอนเค้าเป็นอันขาด



เสียเหลี่ยมหมด เค้าอาจจะสงสาร แล้วกลับมาดีอีก แต่มันก็คง ไม่เหมือนเดิม แล้วล่ะค่ะ จะทำไปทำไม เอามาแต่ตัว แต่หัวใจไม่มา เซ็ง!

10 ความเชื่อที่คิดว่าผู้ชายไม่ชอบ

10 ความเชื่อที่คิดว่าผู้ชายไม่ชอบคุณอาจจะพอมีความรู้มาบ้างว่า ผู้หญิงสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อยั่วยวนผู้ชาย แต่ผู้หญิงยังมีความสามารถที่น่าอัศจรรย์อีกมากซ่อนเร้นอยู่ และไม่มีใครค้นพบมาก่อน เสน่ห์ของผู้หญิงน่ะใช่แค่หน้าอกบึ้บๆกับชุดรัดรึงเท่านั้นหรอกนะ ทุกเรื่องที่คุณเคยพบหรือเคยอ่านมานั้น อาจจะทำให้คุณมีอคติว่า ผู้ชายคือพวกบ้าเซ็กซ์ (ซึ่งอาจจะจริง) แต่ก็ยังมีผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่รู้ว่า มีอะไรน่าสนใจอีกมากในตัวผู้หญิงยิ่งไปกว่าเสื้อคอลึกหรือช่วงขายาวๆ ต่อไปนี้คือความเชื่อ (ผิดๆ) 10 อย่างที่หยิบยกมาให้อ่านกันค่ะ



1. จริงหรือไม่ ผู้ชายไม่จีบสาวใส่แว่น


คนที่คิดแบบนั้นคงไม่เคยเห็นสุดยอดนางแบบสาวสวย คริสตี้ เทอร์ลิงตั้น ใส่แว่นกรอบลายกระ หรือดาราสาวสวยอย่าง คาเมรอน ดิอาซ ผู้หญิงใส่แว่นไม่ได้มีภาพพจน์แบบป้าๆ เด็กเรียนเชยๆหรอกนะ แต่ดูแล้วเฉลียวฉลาดดีออก เพียงแค่ผู้ชายบางคนไม่ชอบผู้หญิงที่ฉลาดกว่าเท่านั้นเอง


2. จริงหรือไม่ ระวังอย่าให้รอยตะเข็บชั้นในโผล่มาให้ใครเห็น

ถ้าว่ากันตามกฎของวงการแฟชั่นแล้ว นี่อาจเป็นข้อห้ามที่ไม่ควรเผลอทำ แต่หากคุณถามหนุ่มๆธรรมดาทั่วไปแล้ว พวกเขาจะบอว่า "รอยตะเข็บกางเกงชั้นในที่ปรากฎขึ้นมาบนกางเกงนั้นแสนจะเซ็กซี่ การได้เห็นภาพรอยเลือนราง แม้จะไกลสัก 60 เมตร ก็พอแล้วล่ะที่จะทำให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ชะงัก เพราะมันเปรียบเสมือนการเชื้อเชิญกรายๆบอกเป็นนัยว่า คุณจะได้ค้นพบอะไรดีๆอีกมากมาย" แต่ไม่ใช่โผล่มาครึ่งตัวนะ นั่นไม่น่าดูเลยทีเดียวล่ะ



3. จริงหรือไม่ ผู้ชายชอบผู้หญิงผมยาว

ผู้ชายหลายๆคนจะชอบผู้หญิงที่ผมยาว เพราะดูเป็นผู้หญิ๋งผู้หญิง แต่โดยมากแล้วมักจะไม่ได้ใส่ใจกับผมสั้นผมยาว ตราบเท่าที่ผู้หญิงดูแลผมตัวเองได้ดีและมีบุคลิกที่ดี ผู้ชายหลายคนชอบมองผู้หญิงผมสั้นด้วยซ้ำไป ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะพวกเขาชอบมองต้นคอขาวๆยังไงล่ะ

4. จริงหรือไม่ ผู้หญิงต้องแต่งหน้าเข้มๆเพื่อดึงดูดความสนใจ

ถ้าคุณเคยนั่งอยู่หน้ากระจก แต่งหน้าโดยโปะอายแชโดว์ ปัดแก้มเพียบ ใส่ขนตาปลอม และละเลงลิปสติกอย่างเมามันส์ แต่งหน้าจัดจนเป็นงิ้วซะงั้น ลองเปลี่ยนความคิดใหม่เถอะ แน่นอนว่าผู้ชายส่วนใหญ่ชอบผู้หญิงที่ใส่ใจกับความงาม แต่จริงๆแล้วผู้ชายส่วนมากชอบผู้หญิงที่ไม่แต่งหน้าเลย (ไม่เชื่อลองถามแฟนคุณสิ) เพราะยามไม่แต่งหน้าผู้หญิงจะดูสาวขึ้น หน้าใสขึ้น เวลาจูบก็ให้ความรู้สึกดีกว่า เพราะไม่งั้นเวลาหอมแก้มหรือจูบสาวซักที หนุ่มๆต้องฝ่าด่านเมกอัพหน้าเตอะที่เธอพอกเอาไว้ทุกที






5. จริงหรือไม่ ผู้ชายไม่ให้เกียรติผู้หญิงที่ดื่มเหล้า

ถ้าดื่มบ้างก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเหมือนกัน หากยังรักษามาดกุลสตรีไว้ได้ ไม่เอะอะโวยวายเหมือนผู้ชาย ดังนั้นสำคัญตรงที่ว่า ดื่มแล้วคุณจะทำตัวอย่างไรมากกว่า



6. จริงหรือไม่ ผู้ชายชอบผู้หญิงผอมๆ

รูปร่างผอมแห้งอาจจะดูดีสำหรับการเป็นนางแบบใส่เสื้อผ้า เดินแบบบนแคตวอล์ก แต่ถ้าถามผู้ชายทั่วไปที่ปกติหน่อย พวกเขาจะบอกคุณว่าผู้หญิงเดินดินที่เขาสามารถนอนกอดได้น่ะ เจ๋งกว่าผู้หญิงที่มีแต่กระดูก ผู้หญิงผอมแห้งมองแล้วน่าประสาทผวามากกว่า ไม่มีอะไรเด็ดไปกว่าผู้หญิงหุ่นอึ๋มๆเนื้อตัวอบอุ่น น่ากอด น่าเคี้ยว นุ่มนิ่ม ผู้หญิงแบบที่ว่านี้แหละสุดยอด



7. จริงหรือไม่ ต้องใส่ชุดชั้นในเซ็กซี่ถึงจะยั่วหนุ่มได้


แบบนั้นก็ดีอยู่หรอก แต่อย่าได้ดูถูกกางเกงในแบบธรรมดา พวกสีขาวธรรมดานี่แหละ เป็นอะไรบางอย่างที่สดใส ชวนมอง เพราะดูบริสุทธิ์สะอาดช่างไร้เดียงสา เร้าอารมณ์ได้อีกแบบ


8. จริงหรือไม่ ผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงที่มีอำนาจหรือความสามารถ


ผู้ชายแท้ๆมักจะมองหาสาวมาดเข้มในชุดสูททำงานเนี้ยบๆ ใส่ส้นสูงแหลมเป็นเข็มดั่งอาวุธของเธอ แบบนี้แหละเร้าอารมณ์ ถ้าไม่ตกอยู่ในอำนาจของเธอ ก็ต้องขอลองปราบเธอให้ได้ล่ะ



9. จริงหรือไม่ ผู้หญิงสวยไม่ควรมีเหงื่อออก (เวลาเหนื่อยๆแค่หน้าแดงก็พอ)

เหลวไหลน่ะ ใครคิดยังงั้นก็บ๊องแล้วล่ะ ไม่มีอะไรจะเทียบได้กับภาพเม็ดเหงื่อที่ไหลช้าๆลงมาบนใบหน้าที่แดงก่ำ หลังจากซาวน่า อาบแดด หรือออกกำลังกายมา เซ็กซี่จริงๆ ให้ตายสิ



10. จริงหรือไม่ ผู้ชายชอบผู้หญิงใส่ชุดสั้นๆรัดรูป


ถ้ามีสาวใส่ชุดสั้นรัดรูปเดินผ่านมา ผู้ชายไม่ไล่ไปหรอก แต่ผู้หญิงในชุดยาวหลวมๆน่าสนใจกว่าเยอะเลย เวลาลมพัดปลิวแนบเนื้อช่างยั่วยวนดีออก อาจจะเห็นช่วงขาอ่อนของเธอ เป็นอะไรที่เซ็กซี่สุดๆ ปล่อยให้เขาจินตนาการต่อ ตรงนี้แหละสำคัญที่สุดแล้วสำหรับหนุ่มๆทั้งหลาย

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2551

อาการแอบรักเพื่อนสนิท แต่อย่าเผลอให้เค้ารู้ตัว



  • ก่อนที่คุณจะคิดแอบรักใครสักคน คุณต้องเผื่อใจไว้ เพราะการที่ไปแอบรักคนอื่น ส่วนมากมักจะไม่สมหวัง อย่าหวังอะไรมากมาย



  • ห้ามไปทำตัวเป็นเจ้าของ แบบว่าเวลาอยู่กับเพื่อน ๆ ห้ามบอกว่า คนนี้เป็นแฟนคุณ



  • ห้ามทำตัวน่าเบื่อ เวลาที่เจอคนที่คุณแอบรัก เช่น พูดแต่เรื่องของตัวเอง



  • ห้ามฉลาดจนเกินเหตุ บางทีคุณต้องทำเป็นโง่บ้าง



  • ห้ามทำท่าทางที่บ่งบอกว่าคุณชอบเค้า เพราะถ้าเค้ารู้ว่าคุณชอบเค้า เค้าจะเปลี่ยนไปอย่างทันที



  • ห้ามไปพูดเรื่องผู้ชายคนอื่นให้เค้าฟัง เพราะเค้าอาจจะคิดว่าเราชอบผู้ชายคนนั้นอยู่



  • ห้ามนั่งใกล้เค้าเกินไป เพราะเวลาที่คุณนั่งใกล้เค้า คุณก็จะรู้สึกตื่นเต้น จนเค้าสังเกตได้ มันอาจจะทำให้เค้ารู้ว่าเราแอบชอบเค้า



  • เวลาไปเที่ยว คาราโอเกะ ห้ามร้องเพลงที่เกี่ยวกับเพลงแอบรัก เพราะอาจทำให้เค้าสงสัยได้ ว่าคุณแอบชอบใครอยู่



  • เวลาที่เค้าบอกกับคุณว่า คุณเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเค้า คุณอย่าทำหน้าไม่พอใจหรือเสียใจเด็ดขาด



  • คุณต้องแสดงความเป็นเพื่อนที่ดีคือ ถ้าเค้าต้องการให้เราช่วยเรื่องอะไร ที่เราสามารถทำได้ คุณก็ต้องตอบไปว่า "ได้อยู่แล้วฉันทำให้เธอได้เพราะเราเป็นเพื่อนสนิทกันนิ"



  • อย่าพลาด ถ้าไม่อยากเสียเพื่อนคนใดคนหนึ่งไป โดยเฉพาะ คนที่เรา